ใครที่กำลังคิดที่จะไปเที่ยวที่ประเทศอินเดียคุณอาจจะเลือกไปเที่ยวแบบสไตล์จัดกรุ๊ปไปเที่ยวเองก็ได้หรืออาจจะไปกับกรุ๊ปทัวร์ก็ได้เช่นกัน เวลาคุณจะเลือกเดินทางไปอินเดียควรเลือกให้ตรงกับวงเงิที่ตนเองมี เลือกให้ตรงกับจริตของตนเองก่อนเสมอ เวลาที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะเดินทางไปที่ประเทศอินเดีย คือ ช่วงเดือนตุลาคมจนถึงเดือนมีนาคม เนื่องจาก ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่อากาศนั้นกำลังดี กำลังน่าเที่ยว ส่วนช่วงอื่นเป็นช่วงที่แสนจะร้อนมาก บางช่วงสูงมากถึง 50 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว ส่วนเรื่องของเสื้อผ้านั้นก็ควรเลือกไปให้เหมาะสมอย่าได้คิดทรมานตนเองด้วยการเลือกเสื้อผิดประเภทไปเด็ดขาดหรือหากใครพอจะมีเงินก็อาจเลือกซื้อใหม่ที่ประเทศอินเดีย ส่วนอาหารที่ควรเอาติดไปด้วย คือ พวกอาหารสำเร็จรูป ปลากระป๋อง เอาประเภทที่แกะทานได้เลย แกะง่าย ๆ เรื่องของกระเป๋าเองก็สำคัญเพราะกระเป๋าควรต้องมีความทนทานพอสมควรต่อคนและลิง
สำหรับใครที่จะไปเที่ยวที่อินเดียข้อควรระวังอย่างหนึ่ง คือ เรื่องของการใช้เงินซื้อของ ที่นี่บางครั้งถ้าคุณเอาเงินไปจับจ่ายซื้อของให้ระวังเงินทอนจะไม่ได้คืน เนื่องจาก คนขายบางคนอาจจะไม่อยากที่จะทอนเงินให้คุณเท่าใดนักหรือไม่ก็เลือกทอนเงินแบบที่เป็นแบงค์เก่าให้ แบงค์เก่านี้อย่าได้รับไว้เชียว สำหรับอินเดียมักจะนิยมใช้ปลั๊กประเภทสามตาเป็นส่วนใหญ่ หากจะให้ดีควรที่จะต้องนำเอาปลั๊กแบบ UNIVERSAL ติดตัวไปด้วยจะดีมาก (หากใครที่ใช้ปลั๊กประเภทสามตาอยู่แล้วแบบนี้สบายใจได้เลย)
Author: admin
ภูมิภาคชูโกะกุและภูมิภาคคิวชู สองภูมิภาคต้องไปให้ได้สักครั้ง
ภูมิภาคชูโกะกุ ภูมิภาคนี้เป็นภูมิภาคที่อยู่ทางปลายสุดของตัวเกาะฮนชู ที่นี่มีจังหวัดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่บอกเลยว่ายอดฮิตมากอย่างเมืองฮิโระชิมะ เมืองนี้เป็นเมืองสำคัญที่เคยมีประวัติที่สำคัญมาก คือ เคยถูกถล่มสมัยสงครามโลลกครั้งที่สองด้วยการโดนนะเบิดนิวเคลียร์ ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งมากมาย เช่น ทตโตริ ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถที่จะสัมผัสได้ดับบรรยากาศของทะเลทรายที่อยู่ภายในประเทศญี่ปุ่น เนินทราที่มีชื่อ คือ เนินทรายทตโตริ, ฮิโรชิมา เมืองนี้เป็นเมืองที่เคยมีประวติโดนทางประเทศสหรัฐอเมริกาทำการทิ้งระเบิดระดับรุนแรงอย่างระเบิดนิวเคลียร์ ปัจจุบันสถานที่ท่องเที่ยว คือ มิยาจิมา, ชิมะเนะ ที่นี่มีปราสาทสำคัญอย่างปราสาทมัตสึเอะ, โอคายามา ที่นี่เป็นสถานที่ต้นกำเนิดของการ์ตูนขวัญใจเด็ก ๆ อย่าง “โมโมทาโร่” ,ยามางุชิ ที่นี่มีสะพานชื่อดังอย่างสะพานคินไตเคียว ที่นี่เป็นสะพานที่สร้างงด้วยไม้และมีความงดงามมากติดอันดับท้อป 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น
ภูมิภาคคิวชู ภูมิภาคนี้เป็นภูมิภาคที่สำคัญเช่นกัน มีลักษณะเป็นเกาะขนาดใหญ่ซึ่งให่ติดอันดับที่สามของญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งภูมิภาคที่มีทั้งเทคโนโลยี มีทั้งธรรมชาติผสมผสานกันแบบที่มีความลงตัวมากสุดรวมถึงที่นี่ยังมีขบวนรถไฟที่หลากหลลายมากเป็นขวยนที่แสนจะน่ารักโดยขบวนรถไฟนี้ได้ถูกออกแบบมาโดยนักออกแบบมีชื่ออย่างคุณเอจิ มิโตะโอะกะ นี่ละที่เป็นสิ่งแสนจะดึงดูดใจนักท่องเที่ยวมากมาย สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวนั้นมีมากมาย อาทิเช่น ฟุกุโอะกะ เมืองนี้เป็นเมืองหลวงประจำภูมิภาคนี้ เป็นเมืองศูนย์กลางในการเดินทางไปมาของเกาะทำให้เมืองนี้ค่อนข้างมีความคึกคักมากกว่าส่วนอื่น , โออิตะ เมืองนี้เป็นเมืองที่ตั้งของออนเซ็นชื่อดังอย่างยุฟุอินและเบปปุที่เลื่องชื่ออีกด้วย
เมืองเด่นๆ ของประเทศอินเดียที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวกัน
หากจะพูดถึงอินเดียแน่นอนว่าเป็นประเทศที่มีเมืองเล็ก ๆ มากมาย แต่ละเมืองมีความโดดเด่นเฉพาะด้านแตกต่างกันออกไป วันนี้เราจะมายกตัวอย่างเมืองเด่นๆ ของประเทศอินเดียที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวกันให้คุณ ๆ ที่กำลังสนใจอยากเที่ยวอินเดียได้ทราบกัน มาดูไปพร้อมๆ กันเลย
เมืองบังกาลอร์ เมืองนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของเทคโนโลยีโดยเฉพาะ เป็นเมืองที่เน้นในเรื่องของการศึกษาแถมยังคงเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมระดับประเทศ เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่มากอันดับ 5 ของประเทศนี้ จริงอยู่ที่เมืองนี้เป็นเมืองที่มีความเจิญมาก มีผู้คนอาศัยอยู่มากมายแต่ที่นี่ยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติอยู่จนกระทั่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “GARDEN CITY” สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่เด่น ๆ ได้แก่ สวนพฤกษศาสตร์ชื่อ LAL BAYGH . สวน CUBBON , หอดูดาวจาวาฮาลาลเนห์รู ฯลฯ
เมืองกัว เมืองนี้เป็นเมืองที่กลายเป็นสถานที่ตากอากาศของใครหลายคน เป็นสถานที่ตากอากาศแบบอยู่ติดริมทะเล เดิมเคยตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศโปรตุเกสและผลจากการตกเป็นเมืองขึ้นนี้เองที่ทำให้เมืองนี้กลายเป็นเมืองเด่นด้านการค้าและยังเป็นเมืองสำหรับเป็นเมืองท่าของอินเดียอีกด้วย
เมืองไฮเดอราบาด เมืองนี้เป็นเมืองที่มีชื่อเรื่องของอาหารเป็นอย่างมากและยังเด่นในเรื่องของการท่องเที่ยวที่ค่อนข้างจะถูกมากหากเทียบกับอีกหลาย ๆ เมืองของประเทศอินเดีย ที่นี่ใครมาต้องแวะซื้อของฝากอย่างไข่มุกเดิมเมืองนี้เป็นเมืองที่เคยเป็นเขรรัฐที่ปกครองด้วยตนเอง มีความเป็นอิสระทั้งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของอังกฤษ นั่นจึงส่งผลทำให้เรามักเห็นว่าตัวตึก อาคาร บ้านส่วนใหญ่ในเมืองมักจะออกแนวยุโรป
สิ่งที่เราอยากบอกหากคุณคือคนหนึ่งที่กำลังคิดจะไปเที่ยวอินเดีย
สิ่งที่เราอยากบอกหากคุณคือคนหนึ่งที่กำลังคิดจะไปเที่ยวอินเดียนั้นมีดังต่อไปนี้
สำหรับประเทศอินเดียนั้นที่นี่ใช้สกุลเงินอย่างสกุลรูปี สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 55 บาทต่อ 100 รูปี และอย่างที่ทุกคนทราบอยู่แล้วที่ประเทศไทยเราค่าเงินนี้ค่อนข้างหาสถานที่แลกเงินได้ยากพอสมควร ดังนั้นหากคุณคิดที่จะแลกเงินติดตัวไปบ้างเราขอแนะนำให้คุณแลกติดตัวไปสักเล็กน้อยก็ยังดี ส่วนที่เหลือก็อาจจะแลกเป็นเงินประเภทดอลลาร์หรือยูโรแทนก็ได้ แต่ที่น่าสนใจ คือ ที่ประเทศนี้การกดเงินกลายเป็นเรื่องง่ายดายมาก ไปที่เมืองใดก็มี ดีไม่ดีบางตู้ยังมีภาษาไทยให้อีกด้วยซ้ำ ทีนี้ก็ไม่จำเป็นต้องพกเงินมากๆ ติดตัวไปไหนมาไหน สบายใจหายห่วง พยายามหาเงินประเภทเศษ ๆ ติดตัวไว้บ้างจะดีมาก
สำหรับเรื่องของกรณีการติดต่อสื่อสารเองำหรับที่ประเทศนี้ก็เป็นเรื่องที่จำเป็นมาก หากใครที่มีเงินก็สามารถเลือกใช้บริการง่าย ๆ อย่าง “ROAMING” ของทางประเทศไทยเลยก็ได้หรือหากไม่สะดวกก็สามารถเลือกใช้บริการโทรศัพท์ประเภทสาธารณะเป็นหลักแทนก็ได้ แต่ที่ประเทศอินเดียบอกเลยว่าเลือกใช้บริการ ROAMING จะดีกว่ามากหรือไม่ก็เลือกการใช้อินเตอร์เน็ตสื่อสารดีกว่าเป็นไหน ๆ
หากใครสนใจอยากจะไปที่ประเทศอินเดียเราขอแนะนำเลยว่าให้คุณนั้นซื้อหนังสือการท่องเที่ยวมาอ่านให้ไวเลยจะดีมากหรือให้พยายามปรึกษาบุคคลที่มีประสบการณ์การเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศอินเดียมาก่อน เมื่อถึงเวลาตัดสินใจได้แล้วก็ให้เตรียมใจไว้ก่อนที่จะเตรียมตัว เพราะ การเดินทางไปที่ประเทศอินเดียนั้นไม่ใช่การเดินทางที่แสนสะดวกสบายแต่อย่างใด จะเดินทางทั้งทีใจต้องสู้เหนือสิงอื่นใด
ข้อควรรู้สำหรับคนที่อยากจะเดินทางไปประเทศอินเดียและตัวอย่างของวัดที่น่าสนใจมากที่สุดในประเทศอินเดีย
ข้อควรรู้สำหรับคนที่อยากจะเดินทางไปประเทศอินเดีย ได้แก่ ที่ประเทศอินเดียจำเป็นจะต้องทำวีซ่า, เวลาที่ประเทศอินเดียนั้นเดินช้ากว่าของไทยเราเป็นระยะเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง, คนอินเดียนั้นเป็นบุคคลที่มีความสามารถในการสือสารด้วยภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี มีความคล่องมาก, ที่ประเทศอินเดียนั้นไม่มีร้านมินิมาร์ท ร้านที่คล้ายเซเว่น ที่นั่นนิยมเลือกเปิดร้านขายของกันเอง, ที่อินเดียนั้นไม่มีเบียร์ขายอยู่ทั่วไป มีร้านที่เป็นร้านเฉพาะ, ที่นั่นคนอินเดียเขาชอบที่จถ่ายภาพกับนักท่องเที่ยวอย่างมาก ใครไปเที่ยวที่นั่นไม่ต้องปแลกใจที่เห็นเขามาขอถ่ายรูปด้วย, ใครไปอินเดียอย่าตกใจที่จะได้เห็นว่าถนนอินเดียนั้นแสนจะวุ่นวายมาก เต็มไปด้วยรถ คน สัตว์มากมายเหลือเกิน, ที่อินเดียนั้นฝุ่นค่อนข้างเยอะมากหากจะให้ดีควรนำผ้าปิดปากติดตัวไปด้วย, อย่าได้ใจดีให้เงินเด็ก ๆ ที่เป็นขอทาน เนื่องจากเมื่อใดที่คุณให้ปุ๊ปคุณจะโดนรุมปั้ป, เวลาไปเที่ยวอินเดียถ้าให้ดีก็ต่อราคาให้ลดเกินครึ่งไปเลย, เดินทางทั้งทีพกมามาติดตัวไปบ้างก็เวิร์ค
ตัวอย่างของวัดที่น่าสนใจมากที่สุดในประเทศอินเดีย ได้แก่ “วัดเชนรานัคปุระ” วัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีความสวยงามมาก เป็นวัดที่ทำจากหินอ่อน เป็นวัดที่ถือทางด้านศาสนาเชนเป็นหลัก ภายในวัดมีงานแกะสลักเสาที่เป็นหินอ่อนทั้งหมดจำนวนมากกว่า 1000 ต้นแถมที่สำคัญลวดลายเหล่านั้นยังไม่ซ้ำกันอีกด้วย วัดนี้ได้ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อศตวรรษที่ 15 เรียกว่าเป็นศาสนสถานที่ติดอันดับหนึ่งในห้าของสิ่งที่เกี่ยวข้องกับศาสนาเชน
สถานที่น่าไปของประเทศอินเดียที่เราอยากจะแนะนำให้คุณได้ไปชมสักครั้งในชีวิตนี้
สถานที่น่าไปของประเทศอินเดียที่เราอยากจะแนะนำให้คุณได้ไปชมสักครั้งในชีวิตนี้ นั่นคือ
มหาสถูปเกสรียา ที่นี่เรียกว่าเป็นมหาสถูปที่มีขนาดใหญ่มากของประเทศอินเดียจะมีลักษณะที่ดูแล้วคล้ายกันกับบุโรพุทโธ, เจดีย์ชเวดากอง อีกทั้งในโซนเดียวกันนั้นยังได้มีการขุดแล้วพบว่ากับเสาหินขนาดใหญ่ซึ่งเป็นเสาหินในยุคพระเจ้าอโศกมหาราชที่เรียกว่ามีความสมบูรณ์แบบมากที่สุดเลยก็ว่าได้
วัดพระเชตวันมหาวิหาร วัดนี้เป็นวัดโบราณอีกหนึ่งวัดในศาสนาพุทธ ภายในวัดยังมีความเชื่ออีกว่ามีต้นโพธิ์ซึ่งเกิดจากเมล็ดต้นศรีมหาโพธิ์ที่ได้มาจากทางด้านพระอานนท์เมื่อครั้งท่านเดินทางมาจากพุทธคยา ต้นโพธิ์นี้ยังคงตั้งตระหง่านอยู่จนถึงทุกวันนี้ วัดนี้เป็นวัดที่เหลือเพียงแค่ตัวซากโบราณสถานแต่ยังคงมีความสวยงามอยู่ด้วยการบูรณะของทางผู้ศรัทธา
วัดเวฬุวันมหาวิหาร วัดนี้เป็นวัดแรกที่เกี่ยวกับศาสนาพุทธของทางประเทศอินเดีย วัดตั้งอยู่ใกล้กับเชิงเขาสำคัญอย่างเขาบรรพต เดิมเคยใช้เป็นเขตของพระราชอุทยานเมื่อครั้งยุคสมัยของพระเจ้าพิมพิสาร สถานที่แห่งนี้ยังได้ใช้เป็นสถานที่แสดงโอวาทสำคัญอย่างโอวาทปาติโมกข์ในวันมาฆบูชา ทุกวันนี้คงเหลืออยู่เพียงต้นไผ่ ซากโบราณสถาน
เขาคิชกูฎ เขานี้เป็นสถานที่สำคัญมาก เพราะเป็นที่ตั้งของ “สถูปวิศวะศานติ” ที่นี่เป็นวัดออกแนวญี่ปุ่น ที่นี่มีพระพุทธรูปอยู่รอบ ๆ ตัวสถูปทั้ง 4 องค์ สถูปนี้อยู่บริเวณส่วนของทางขึ้นของเขาคิชกูฎ สถานที่แห่งนี้เป็นวัดที่น่าไปชมเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว
เมืองน่าเที่ยว RECOMMEND ของดินแดนภารตะ
หากจะถามถึงเมืองน่าเที่ยว RECOMMEND ของดินแดนภารตะแล้วละก็บอกเลยว่ามีหลายเมืองมาก แต่เมืองดัง ๆ เด่น ๆ วันนี้เราได้นำมาฝากคุณเรียบร้อย ว่าแต่จะมีเมืองอะไรบ้างมาดูพร้อมๆ กันเลย
เมืองมุมไบ เมืองนี้มีชื่อเรียกอีกแบบหนึ่ง คือ “บอมเบย์” เป็นเมืองที่เป็นสถานที่ตั้งของ BOOLYWOOD เป็นอีกหนึ่งเมืองที่เป็นเมืองท่าของประเทศอินเดีย เป็นเมืองของการคมนาคมโดยเฉพาะ เป็นเมืองของการค้าที่แสนจะสำคัญมากของประเทศอินเดีย เป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญของโลกอีกเมืองหนึ่ง ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของสถาบันการเงินอีกมากมายอีกด้วย
เมืองชัยปุระ เมืองนี้เป็นเมืองที่ต้องบอกว่ามาได้ค่อนข้างสะดวกมากไม่ว่าจะมาทางเครื่องบินหรือรถยนต์ก็ได้ทั้งนั้น เมืองนี้ชื่อมีความหมายว่า “นครของบุคคลที่เป็นผู้ชนะ” เป็นเมืองหลวงของทางรัฐราชาสถาน เมืองนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเมือปี 1727 สำหรับบุคคลที่เป็นผู้ออกแบบนั้นก็คือ VIDYADHAR BHTAACHAYA (ชาวเบลกอล) ในอดีตเมืองแห่งนี้ไม่ได้เป็นสีชมพูอย่างที่ใครหลายคนเห็นในปัจจุบันแต่เพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงให้กลายเป็นสีชมพูเมื่อครั้งมีการจัดงานต้อนรับเจ้าชายพระองค์หนึ่ง เดิมเมืองนี้เคยเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก สำหรับศิลปหัตถกรรมที่ขึ้นชื่อของที่นี่ ได้แก่ เครื่องประดับ, ของที่เป็นการแกะสลักหรือแม้กระทั่งสิ่งทอ
เมืองบังกาลอร์ เมืองนี้เป้นเมืองที่ได้รับการขนานนามเลยว่าเป็น “SILICON VALLEY” ของทวีปเอเชียเรา แนเมืองของเทคโนโลยี เมืองของภาคอุตสาหกรรมของอินเดีย เมืองนี้ตั้งอยู่ภายในรัฐการ์นาตากาซึ่งอยู่ทางโซนตอนใต้ของประเทศ ที่นี่ยังเป้นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยชื่อดังอย่างมหาวิทยาลัย INDIAN INSTITUTE OF SCIENCE ซึ่งบอกเลยว่าเด็กที่เรียนที่นี่ล้วนแต่เป็นเด็กเก่ง เด็กท้อป ๆ ทั้งนั้น มหาวิทยาลัยนี้ให้ความสำคัญเรื่องของการศึกษาอย่างมากและพร้อมที่จะให้การสนับสนุนต่อนักเรียนของตนเองแบบเต็มที่ มหาวิทยาลัยนี้ปม้กระทั่งหน่วยงานชื่อดังระดับโลกอย่างนาซาเองยังเล็กที่จะเลือกคนที่จบจากที่นี่ไปทำงานด้วยเลย
ภูมิภาคชูบุอีกหนึ่งภูมิภาคที่น่าสนใจมากของประเทศญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีลักษณะเป็นหมู่เกาะ เป็นลักษณะที่แบ่งออกเป็นภูมิภาคๆ ออกไป วันนี้เราจะมายกตัวอย่างภูมิภาคหนึ่งที่เป็นภูมิภาคสำคัญของประเทศอย่างภูมิภาคชูบุให้ได้ทราบกัน ที่นี่บอกเลยว่าถ้าใครมาญี่ปุ่นแล้วไม่แวะที่นี่ถือว่าพลาดมาก
ภูมิภาคชูบุ ภูมิภาคนี้เป็นภูมิภาคที่อยู่ตรงกลางของประเทศ เป็นสถานที่ที่ต้องเรียกว่าเป็นแลนด์มาร์คของประเทศญี่ปุ่นจนได้รับสมญานามเลยว่าใครมาที่ญี่ปุ่นต้องมาให้ได้ เพราะ ที่นี่มีภูเขาไฟฟูจิแสนสวยตั้งตระหง่านอยู่ นอกจากภูเขาไฟนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าไปอีกมากมายย อาทิเช่น นีงาตะ ที่นี่เป็นสถานที่ตั้งของเมืองสำคัญอย่างเมืองยูซาวาที่นี่เป็นเมืองสำหรับการเล่นสกีเป็นเมืองหิมะที่อยู่ใกล้กับเมืองหหลวงอย่างเมืองโตเกียวมากที่สุด ใครที่ไม่อยากเล่นสกีและไม่อยากไปไกลจากเมืองหลวงมากต้องที่นี่เลย, มัตสิโมโตะ ที่นี่มีปราสาทแสนสวยที่เป็นปราสาทอันดับต้น ๆ ของประเทศอย่างปราสาทมัตสึโมโตะ, โทยามะ ที่นี่จะเป็นสถานที่ในการไว้ชมกำแพงหิมะที่มีความสวยงามแปลกตามาก, ชิราคาวาโกะ เมืองนี้เรียกว่าเป็นหมู่บ้านเก่าแก่อีกหนึ่งหมู่บ้านที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นอีกหนึ่งสิ่งมรดกโลกทางงด้านวัฒนธรรมโบราณ, นากาโนะ ที่นรี่จะมีความแลกตรงที่คุณสามารถถ่ายภาพประทับใจอย่างภาพน้องลิงแช่ในออนเซ็นซึ่งดูแปลกตามาก ๆ , ยามานาชิ ที่นี่เป็นที่ตั้งทะเลสาบสำคัญทั้งห้าของตัวภูเขาไฟฟูจิ ตัวทำเลสาบที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากสุด นั่นคือ ทะเลสาบคาวากุชิโกะ, นาโกยา เมืองนี้เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่มากสุดของภูมิภาคนี้
วัดขึ้นชื่อที่คุณควรไปชมให้ได้สักครั้งในชีวิตของประเทศอินเดีย
วัดขึ้นชื่อที่คุณควรไปชมให้ได้สักครั้งในชีวิตของประเทศอินเดีย ได้แก่
วัดบาไฮ หรือที่ใครหลายคนเรียกว่าวัดดอกบัว วัดนี้เป็นวัดที่สร้างขึ้นมาใหม่และได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2529 แม้ว่าวัดนี้เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานแต่กลับกลายเป็นอีกหนึ่งวัดที่สำคัญมากของอินเดีย เป็นวัดที่กลายเป็นไฮไลท์หากคุณไปเที่ยวที่เมืองเดลีต้องไปให้ได้ วัดนี้เป็นวัดที่ไม่ได้สังกัดเข้าที่ศาสนาใดเป็นหลัก แต่มีวัตถุประสงค์ในการสร้างเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คน ตัวอาคารโดมนั้นจะเป็นลักษณะคล้ายกับดอกบัวที่มีขนาดใหญ่มาก ที่นี่สามารถบรรจุผู้คนได้มากถึง 1300 คนเลยทีเดียวนั่นจึงทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่นั่งสมาธิของผู้คนมากมายไปในตัวเลยนั่นเอง
วัดศรีจินตามณี วัดนี้เป็นวัดที่อยู่ในเมืองปูเน เป็นวัดที่มีชื่อคล้ายกับชื่อวัดบ้านเรา เป็นอีกหนึ่งวัดที่สำคัญของเมืองปูเน เมืองปูเนเป็นเมืองที่ดังในเรื่องขององค์พ่อพระพิฆเนศ ใครที่อยากมาขอพรกับพระองค์ท่านวัดนี้ไม่ควรพลาด
วัดศรีมยุเรศวร วัดนี้อยู่ในหมู่บ้านนกยูง หากจะถามว่าทำไมถึงชื่อหมู่บ้านนกยูงนั่นก็เป็นเพราะที่นี่มีความเชื่อว่าในอดีตเคยมีนกยูงมากมายอาศัยอยู่
วัดมหาโพธิ์ วัดนี้คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี เป็นวัดที่เป็นหนึ่งในมรดกโลกทางด้านวัฒนธรรม ที่นี่มีความเชื่อว่าเป็นสถานที่ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงตรัสรู้ในที่แห่งนี้ เป็นหนึ่งในสังเวชนียสถานที่สำคัญของศาสนาพุทธ ภายในวัดแห่งนี้มีต้นศรีมหาโพธิ์ตั้งตระหง่านอยู่ซึ่งต้นโพธิ์ต้นนี้มีความเชื่อว่าเคยเป็นต้นที่เกิดมาวันเดียวกันกับที่พระพุทธเจ้าประสูติ (ต้นไม้นี้ได้ถูกทำลำลายไปหลายรอบตามกาลเวลาแต่ก็มีการปลูกทดแทนจากหน่อของต้นเดิมเสมอมา)
คิดจะไปอินเดียเดี๋ยวนี้สบายจะตาย!!!
หากจะถามว่าทำไมหลายคนถึงอยากที่จะเดินทางไปที่ประเทศอินเดียกันนักคงต้องบอกเลยว่าที่นี่เป็นประเทศที่ค่อนข้างมีวัฒนธรรมที่ยาวนาน มีประวัติศาสตร์ที่สุดคลาสสิก มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมาย ปัจจุบันการเดินทางไปประเทศอินเดียไม่ได้ยากเหมือนในอดีตที่ต้องนั่งเรือล่องทะเลไปเป็นเดือนๆ แต่สมัยนี้มีสายการบินมากมายที่พร้อมจะพาคุณไปประเทศอินเดียภายในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง อาทิเช่น การบินไทย แอร์อินเดีย เจ็ตแอร์เวย์ เวียตเจ็ตแอร์ เป็นต้น ทั้งนี้การจองตั๋วในปัจจุบันก็แสนจะง่ายดายเพียงแค่กดคลิ้กบนเว็บ ยิ่งหากคุณเลือกเดินทางช่วยที่ทางสายการบินจัดโปรให้อันนี้จะยิ่งคุ้มไปอีกหลายเท่าตัว
ในการเดินทางเข้าประเทศอินเดียจำเป็นจะต้องทำวีซ่าซึ่งในการทำวีซ่านั้นสถานที่ทำ คือ สถานทูตอินเดียซึ่งตั้งอยู่ที่ ซ.ประสานมิตร (สุขุมวิท 23) ในจ.กรุงเทพฯ คุณสามารถติดต่อขอทำวีซ่าได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ สำหรับช่วงเวลาของการยื่นเอกสารเพื่อขอทำวีซ่าจะอยู่ที่เวลา 09.00 น. ถึง 12.00 น. ส่วนช่วงเวลารับวีซ่าจะอยู่ที่ 15.00น.ถึง 16.30 น. เอกสารที่คุณจะต้องเตรียมไปให้พร้อมหากคิดจะทำวีซ่า ได้แก่ พาสปอร์ต (ต้องเป็นพาสปอร์ตที่มีอายุการใช้งานเหลือมากกว่า 6 เดือนขึ้นไปและจะต้องมีพื้นที่ของกระดาษในเล่ม 2 หน้าขึ้นไปด้วย) พร้อมทั้งสำเนาจำนวน 2 แผ่น, รูปถ่ายตนเองขนาด 2×2 นิ้ว (สำหรับภาพนั้นจะต้องเป็นภาพที่ใช้พื้นหลังเป็นสีขาวเท่านั้นห้ามเป็นสีอื่น) จะต้องเป็นภาพที่ถ่ายมาไม่เกิน 1 เดือน, เงินเพื่อใช้ในการชำระค่าธรรมเนียมการทำวีซ่า, สำเนาบัตรประชาชน , แสดงตั๋วเครื่องบินทั้งไปและกลับ, ใบบุคกิ้งโฮเทลหรือเลือกแสดงเป็นโปรแกรมทัวร์แทนก็ได้ (ใช้แบบภาษาอังกฤษเท่านั้น)
ภูมิภาคคันไซ สถานที่ต้องบมีในแพลนเที่ยวญี่ปุ่น
ภูมิภาคคันไซเป็นภูมิภาคที่ต้องบอกเลยว่าใครที่คิดจะไปญี่ปุ่นก็มักจะมีภูมิภาคนี้อยู่ในแพลนการเที่ยว เพราะเมืองนี้เป็นเมืองสำคัญที่มีสถานที่ท่องเที่ยว RECOMMEND มากมายตั้งตระหง่านอยู่ เรียกว่า มาที่นี่มาแล้วคุ้มแน่นอน
ภูมิภาคคันไซ ภูมิภาคนี้เป็นภูมิภาคที่อยู่ตรงกลางของประเทศแต่จะเยื้องๆ ออกไปทางตอนใต้ เดิมเคยเป็นสถานที่ตั้งของเมืองหลวงของญี่ปุ่น นั่นคือ เมืองนาราและเมืองเกียวโต ภูมิภาคนี้เป็นภูมิภาคที่มีนักท่องเที่ยวจากประเทศต่าง ๆ มาเยี่ยมเยียนที่นี่มากมาย (รองลงมาจากภูมิภาคหลักอย่างคันโต) ภูมิภาคนี้มีสถยานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่น่าสนใจที่เราอยากจะแนะนำ นั่นคือ เกียวโต เมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่น ที่นี่ยังคงรักษาวัฒนธรรมความเป็นญี่ปุ่นแบบสมัยก่อนไว้เป็นอย่างดีแถมที่นี่ยังมีวัดอีกมากมายอยู่ที่นี่, เฮียวโงะ ที่นี่เป็นสถานที่ตั้งของปราสาทอันเป็นมรดกโลกของประเทศอย่างปราสาทฮิเมจิ เป็นปราสาทที่มีความสวยงามติดอันดับท้อปทรีของประเทศ, โอซาก้า ที่นี่เป็นเมืองหลวงของภูมิภาคคันไซ เป็นอีกหนึ่งเมืองที่เป็นที่นิยมรอจากเมืองโตเกียว ส่วนวใหญ่นักท่องเที่ยวที่มาโตเกียวก็มักจะมาที่เมืองนี้ , ชิงะ ที่นี่จะมีทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่สุดของประเทศ นั่นคือ ทะเลสาบบิวะ, เมืองนารา เมืองนี้เคยเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของประเทศก่อนที่จะมาตั้งที่เมืองหลวงปัจจุบัน เมืองนี้มีความเป็นเอกลักษณ์อยย่างหนึ่ง นั่นคือ ที่นี่จะมีกวางอาศัยอยู่มากมายเรียกว่าเดินกันชิลล์ ๆ ทั่วเมืองนี้, เมืองมิเอะ เมืองนี้จะมีศาลเจ้าเก่าแก่และมีความศํกดิ์สิทธิ์มากกว่า 2000 ปี นั่นคือ ศาลเจ้าอิเสะ ใครรที่อยากมาขอพรต้องมาที่นี่ทั้งนั้น, วาคายามา ที่นี่เป็นสถานที่ตั้งของเทือกเขาแสนศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อว่าโคยะซัง
เมืองน่าไปของประเทศอินเดียที่คุณไม่ควรพลาด
เมืองน่าไปของประเทศอินเดียมีด้วยกันหลายเมืองแต่หากจะถามถึงเมืองที่เด่น ๆ ของที่นี่ วันนี้เราจะมาแนะนำให้คุณได้ทราบกัน ไปดูกันเลย
เมืองอักรา เมืองนี้เป็นเมืองที่เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งตำนานของความรักที่แสนจะคลาสสิก ความรักสุดแสนจะนิรันดรของบุคคลสองคน นั่นคือ กษัตริย์นาม “ชาห์จาฮัน” กับพระมเหสีนาม “มุมทัช” ที่นี่มีทัชมาฮาลซึ่งเป็นปราสาทแบบหินอ่อนติดอันดับของสิ่งมหัศจรรย์ของโลกเราเลยทีเดียว เมื่อยุคศตวรรษ 16 เมืองนี้เคยเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีความรุ่งเรืองมาก เป็นสถานที่ที่ต้องบอกเลยว่าถ้าใครมาอินเดียควรมาที่นี่
เมืองศรีนาคา เมืองนี้เรียกว่าเป็นเมืองที่เป็นดินแดนทะเลสาบ เป็นดินแดนสายน้ำ เมืองนี้ตั้งอยู่ที่หุบเขา เรียกว่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างสวยงามมากอีกทั้งยังมีสวนดอกไม้แสนสวยอีกด้วย ยิ่งหากคุณได้ไปในช่วงฤดูหนาวบอกเลยว่าที่นี่บรรยากาศแสนจะดีมีธารน้ำแข็งอีกด้วย น่าตั้งแคมป์มากที่สุดเลยขอบอก
เมืองชัยปุระ เมืองนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นเมืองที่มีประวัติแสนยาวนาน เป็นเมืองที่เคยมีประวัติแสนรุ่งเรืองมากในโซนตะวันออก เป็นเมืองที่ต้องบอกว่าผังเมืองขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามมาก จุดเด่นของเมืองนี้คือบ้านเรือนจะเป็นแนวสีชมพูทั้งหมด เป็นเมืองที่มีศิลปหัตถกรรมมากมายน่าสนใจ อาทิเช่น เครื่องประดับ, ผ้าทอ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีสถานที่เที่ยวอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น พระราชวังแห่งสายลม, วงเวียนบาดีโช, วัดชื่อดังอย่าง “วัดลักษมีนารายัน” เป็นต้น
เมืองเดลี เมืองนี้เป็นเมืองที่ต้องบอกเลยว่าเป็นเมืองหลวงแสนเก่าแก่มาก มีมายาวนานมากกว่า 5000 ปีด้วยซ้ำไป เมืองนี้เป็นเมืองที่มีประวัติยาวนานมากที่สุดติดอันดับของโลกเลยทีเดียว สำหรับสถานที่ที่คุณควรไปให้ได้ นั่นคือ ซากมัสยิดแบบโบราณที่ชื่อว่า “เฟอรอซอาบัด” สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ได้ถูกก่อสร้างขึ้นในปี 1325 เพื่อให้ใช้ในการฝังศพของนักบุญ, ป้อมมีชื่ออย่าง “ป้อมตุกกะลาบัด” และ “ป้อมแดง”